“จงรักตัวเอง” เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยๆ จนกลายเป็น Trend ในการที่ทำให้ตัวเองไม่ตกยุค แต่การรักตัวเองไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูหรือแคปชั่นให้กำลังใจ มันคือความรู้สึกลึกๆ ที่เรามีต่อตัวเอง เป็นการยอมรับ เข้าใจ และเมตตาตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในวันที่เราเก่งหรือวันที่เราพลาด วันที่เรามั่นใจหรือวันที่เราอ่อนแอ ในวันที่เราฉลาดหรือวันที่เราโง่
การรักตัวเองเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ต้องค่อยๆ เรียนรู้และฝึกฝน บางวันอาจง่าย บางวันอาจยาก แต่ทุกก้าวคือการเดินทางที่พาเราไปรู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น มาเริ่มเรียนรู้ไปด้วยกัน
เรารู้จักตัวเองดีหรือยัง?
รู้จักกับความไม่สมบูรณ์แบบ
ยอมรับว่าทุกคนมีข้อบกพร่อง และนั่นคือเรื่องปกติเราทุกคนล้วนมีจุดอ่อนและข้อบกพร่อง บางวันเราอาจทำพลาด บางวันเราอาจรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์
ความงามในความไม่สมบูรณ์
ปรัชญาของเค็นสึงิสอนเราว่า รอยแตกและความไม่สมบูรณ์แบบไม่ใช่สิ่งที่ต้องซ่อนเร้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และตัวตนของสิ่งนั้น เหมือนภาชนะที่แตกและถูกซ่อมด้วยทองคำ รอยแตกไม่ได้ทำให้มันด้อยค่าลง แต่กลับเพิ่มเรื่องราวและความพิเศษให้กับมัน ข้อบกพร่องของเราก็เช่นกัน มันคือส่วนที่ทำให้เราเป็นเรา
เรียนรู้จากความผิดพลาด
ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนและความกล้าหาญ
การที่เราผิดพลาด แปลว่าเราได้กล้าที่จะลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง กล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะออกจากพื้นที่ปลอดภัย นี่คือสิ่งที่เราควรภูมิใจ ไม่ใช่มองว่ามันคือความล้มเหลวเหมือนเด็กที่กำลังหัดเดิน ต้องล้มหลายครั้งกว่าจะเดินได้ แต่ในทุกครั้งที่ล้ม เขาก็กล้าที่จะลุกขึ้นและพยายามอีกครั้ง การล้มไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเติบโต
จากความผิดพลาดสู่การเรียนรู้
- ทุกครั้งที่เราผิดพลาด แปลว่าเราได้ลงมือทำ ได้พยายาม และได้เรียนรู้
- ความผิดพลาดไม่ได้บอกว่าเราไม่เก่งพอ แต่บอกว่าเรากล้าพอที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ
- แทนที่จะโทษตัวเองที่ทำพลาด ลองชื่นชมตัวเองที่กล้าลงมือทำ
- ทุกความผิดพลาดคือโอกาสที่จะเข้าใจตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ความผิดพลาดไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นก้าวย่อยๆ ที่พาเราไปสู่การเติบโต เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรากล้าพอที่จะลงมือทำ และพร้อมที่จะเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น คุณคิดว่าการมองความผิดพลาดในมุมของความกล้าหาญและการลงมือทำแบบนี้ ช่วยให้เรามีมุมมองที่เป็นบวกกับความผิดพลาดมากขึ้นไหมครับ?
ให้อภัยตัวเอง
การให้อภัยตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อเรามีมาตรฐานความดีและความสมบูรณ์แบบสูงปรี๊ด บางครั้งเราอาจคาดหวังให้ตัวเองไม่เคยผิดพลาด ต้องทำทุกอย่างได้ดีเสมอ หรือต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ บางทีเราอาจจะเข้มงวดและโหดร้ายกับตัวเองมากเกินไป จนลืมไปว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ยอมรับว่าเราก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และนั่นก็ไม่เป็นไร ถึงจะยากแค่ไหน การให้อภัยตัวเองก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้
ลองถามตัวเองว่า ถ้าเด็กอายุ 5 ขวบ ทำผิดพลาดแบบเดียวกัน เราจะพูดกับเขาอย่างไร? แล้วทำไมเราถึงไม่พูดกับตัวเองแบบนั้นบ้าง?
อยู่กับอารมณ์และความรู้สึก
อารมณ์ด้านลบไม่ใช่สิ่งผิด
ความโกรธ ความเศร้า ความกลัว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนท้องฟ้าที่ต้องมีทั้งแดดและฝน เมื่อเกิดอารมณ์เหล่านี้ขึ้นมา แทนที่จะรีบผลักไสหรือกดมันเอาไว้ ลองหยุดสักครู่เพื่อทำความเข้าใจว่าเรากำลังรู้สึกอะไร อารมณ์นั้นมีที่มาจากอะไร และมันส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเราอย่างไร
การยอมรับและทำความเข้าใจอารมณ์เหล่านี้ จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไร แค่อยู่กับมันและสังเกตมันอย่างใจเย็น เหมือนกำลังนั่งมองเมฆที่ลอยผ่านไป อารมณ์ทุกอย่างล้วนเป็นแขกชั่วคราวที่แวะมาเยือน และจะผ่านพ้นไปตามธรรมชาติของมัน
การจัดการกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในใจ
เวลาที่มีเสียงตำหนิตัวเองในหัว ลองหยุดและถามว่า: “ถ้าคนที่เรารักกำลังรู้สึกแบบนี้ เราจะปลอบเขาอย่างไร?” แล้วลองพูดกับตัวเองแบบนั้นดู
ก้าวต่อไปในการเดินทาง
รักตัวเองคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย
การรักตัวเองไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว มันคือการเรียนรู้ทีละเล็กทีละน้อย บางวันอาจง่าย บางวันอาจยาก และนั่นก็ไม่เป็นไร
เริ่มจากตอนนี้
ลองถามตัวเองว่า วันนี้เราจะทำอะไรสักหนึ่งอย่างเพื่อดูแลและเข้าใจตัวเองมากขึ้นได้บ้าง? อาจเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น การพักผ่อนเมื่อเหนื่อย การให้กำลังใจตัวเองเมื่อท้อ หรือการยอมรับว่าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว
คำถามชวนคิด
ลองถามตัวเองดูนะ
-
วันนี้คุณให้กำลังใจตัวเองบ้างหรือเปล่า?
-
เวลาทำผิดพลาด คุณพูดกับตัวเองแบบไหน?
-
มีด้านไหนของตัวเองที่คุณยังยอมรับไม่ได้บ้าง?
-
ถ้าจะเริ่มรักตัวเองให้มากขึ้น คุณอยากเริ่มจากตรงไหน?
บทสรุป
การรักตัวเองที่แท้จริงคือการยอมรับทั้งด้านสว่างและด้านมืดของเรา ไม่ใช่การพยายามเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างเข้าใจและเมตตา เมื่อเราเห็นคุณค่าในตัวเอง เราจะสามารถเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปด้วยตัวของเราเอง โดยไม่ต้องรอการยืนยันหรือการยอมรับจากใคร เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวเองผ่านสายตาหรือคำพูดของคนอื่น เพราะความรักและการยอมรับที่แท้จริงนั้นเริ่มต้นจากภายในจิตใจของเราเอง การเดินทางสู่การรักตัวเองอย่างแท้จริงอาจใช้เวลา แต่ทุกขณะที่เราหายใจ ทุกทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างสงบและเป็นสุข โดยไม่ต้องพึ่งพาการยอมรับจากภายนอก เพราะเราเข้าใจแล้วว่า ตัวเราในทุกความไม่สมบูรณ์แบบนั้น มีคุณค่าและความหมายในตัวเองเสมอ