empty

ธรรมชาติของจิต

ในยามเช้าตรู่ที่อากาศบริสุทธิ์ ลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้า… บางวันเราเห็นเมฆหมอกปกคลุม บางวันเราเห็นความกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต จิตใจของเราก็เช่นเดียวกัน มีทั้งวันที่ขุ่นมัวและวันที่ปลอดโปร่ง

ท่านพุทธทาสได้เปรียบจิตว่างเหมือนห้องที่จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ แม้จะมีข้าวของมากมาย แต่ทุกสิ่งล้วนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่อึดอัด ไม่รกรุงรัง นี่คือความว่างที่แท้จริง… ว่างจากความวุ่นวาย แต่เต็มเปี่ยมด้วยปัญญา

เมื่อจิตไม่ว่าง… ชีวิตก็ทุกข์

หลายครั้งที่เราเผลอปล่อยให้จิตใจถูกครอบงำด้วยความทุกข์ เหมือนคนตกอยู่ในห้วงนรก บางคราวร้อนรุ่มด้วยความโกรธ บางคราวมืดมนด้วยความหลง บางคราวกระหายด้วยความอยากไม่รู้จบ และบางคราวหวาดกลัวจนไร้เหตุผล

แต่เมื่อใดที่จิตว่าง… ความทุกข์เหล่านั้นก็จางหาย เหมือนเมฆที่สลายไปจากท้องฟ้า เผยให้เห็นความกว้างใหญ่อันไร้ขอบเขต

จิตว่างทำงานอย่างไร?

เปรียบเหมือนกระจกเงาที่สะอาดบริสุทธิ์ สามารถสะท้อนทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ไม่บิดเบือน จิตที่ว่างพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เหมือนมือที่ว่างเปล่า… พร้อมจะหยิบจับสิ่งใดก็ได้อย่างคล่องแคล่ว

เรื่องของความอยาก… มีสองทาง

ลักษณะของความอยาก

  1. อยากแบบไม่มีปัญญา

    • เหมือนคนตาบอดวิ่งไล่จับผีเสื้อ
    • วิ่งจนเหนื่อย แต่จับไม่ได้สักที
  2. อยากแบบมีปัญญา

    • เหมือนชาวสวนที่รู้จังหวะ
    • เข้าใจการปลูก การรดน้ำ การเก็บเกี่ยว

ลองนึกถึงสวนดอกไม้… คนตาบอดที่อยากจับผีเสื้อ วิ่งไล่จับอย่างไร้ทิศทาง นี่คือความอยากที่ปราศจากปัญญา แต่ชาวสวนผู้ชำนาญ รู้จังหวะการปลูก การรดน้ำ การเก็บเกี่ยว ทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจ นี่คือความอยากที่นำพาด้วยปัญญา

ชีวิตกับสายน้ำ

ชีวิตเปรียบเหมือนการพายเรือในแม่น้ำ… บางคนพายทวนกระแสน้ำอย่างสิ้นเปลืองแรง บางคนเข้าใจธรรมชาติของน้ำ ใช้กระแสให้เป็นประโยชน์ แต่ผู้ที่มีจิตว่าง… พายไปอย่างเบาสบาย ไม่แม้แต่จะยึดติดกับจุดหมาย

ทรัพย์สมบัติในมือผู้มีจิตว่าง

เงินทองในมือคนจิตไม่ว่าง เป็นเหมือนภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกไว้ตลอดเวลา แต่ในมือของผู้มีจิตว่าง ทรัพย์สมบัติเป็นเพียงเครื่องมือ ใช้เมื่อจำเป็น วางเมื่อไม่ต้องการ

จิตว่างในชีวิตประจำวัน

ยามทำงาน… จิตที่ว่างช่วยให้เราทำได้อย่างเต็มที่ ไร้ความกังวลรบกวน เมื่อเจอปัญหา… เรามองเห็นทางออกชัดเจน เพราะไม่มีอคติบดบังสายตา อยู่กับผู้คน… เราเป็นมิตรได้ง่าย เพราะไม่มีกำแพงแห่งความยึดมั่นกั้นกลาง

บทเรียนสุดท้ายของจิตว่าง

เหมือนดอกบัวที่เติบโตจากโคลนตม แต่ผุดขึ้นเหนือน้ำอย่างงดงาม ไม่แปดเปื้อน… จิตว่างสอนให้เรารู้จักวางในสิ่งที่ควรวาง ทำในสิ่งที่ควรทำ รักโดยไม่ยึด อยู่โดยไม่ทุกข์ ให้โดยไม่หวังผล และเป็นในสิ่งที่เป็น… อย่างเป็นธรรมชาติ

นี่คือมรดกธรรมอันล้ำค่าที่ท่านพุทธทาสได้มอบไว้… สอนให้เราเข้าใจว่า จิตว่างไม่ใช่การไม่มีอะไร แต่คือการมีทุกอย่างโดยไม่ยึดติดสิ่งใด

เรียบเรียงจาก

By admin